ประวัติวัด

โครงสร้างการบริหารจัดการวัด

J0105250

ประวัติวัดมูลจินดาราม    ตำบลบึงยี่โถ   อำเภอธัญบุรี   จังหวัดปทุมธานี                                                                                                                                    
                วัดมูลจินดาราม หรือที่ประชานชนทั่วไปเรียกว่า วัดคลองห้า   ตั้งอยู่เลขที่ ๙๘ ริมฝั่งคลองประยูรศักดิ์  หมู่ ๓  ตำบลบึงยี่โถ   อำเภอธัญบุรี  จังหวัดประทุมธานี  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินที่ตั้งวัดเนื้อที่ ๗๙ ไร่ ๖๕ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๒๒๖
ประวัติเดิม  

                เมื่อวันที่   ๑๘   มีนาคม   พ.ศ.  ๒๔๓๙  ร.ศ.  ๑๑๕  ค.ศ.  ๑๘๙๖  จ.ศ.  ๑๒๕๘   ตรงกับวันพฤหัสบดี  แรม  ๑  ค่ำ  เดือน  ๔ พระปฏิบัติราชประสงค์(เป็นชาวฝรั่ง ชาติออสเตอเลียชื่อมูลเล่อร์)  กับนางจีน  ซึ่งเป็นภรรยา  ขออนุญาตสร้างพระอาราม  เพื่อเป็นที่พำนักอาศัยของพระภิกษุสามเณร  และได้รับอนุญาตให้สร้างวัดได้เมื่อวันที่  ๑๙  มีนาคม  พ.ศ.  ๒๔๓๙  ร.ศ.  ๑๑๕  ค.ศ.  ๑๘๙๖  จ.ศ.  ๑๒๕๘  ตรงกับวันศุกร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๔
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่  ๑๐  กรกฎาคม  พ.ศ.  ๒๔๔๒  ร.ศ.  ๑๑๘  ค.ศ.  ๑๘๙๙  จ.ศ.  ๑๒๖๑  ตรงกับวันจันทร์  ขึ้น  ๓  ค่ำ  เดือน ๘  (หลัง)  ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า-เจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๕  โดยกว้าง  ๗  วา  โดยยาว  ๑๑  วา
              อนึ่งค่าก่อสร้างวัดมูลจินดารามในครั้งนั้น สิ้นเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น  ๒๔,๘๔๐  บาท  (สองหมื่นสี่พันแปดร้อยสี่สิบบาทถ้วน)   และยังได้ก่อสร้างเพิ่มเติมอีก  โดยมีพระครูธัญญเขตเขมากร  หลวงปู่ช้าง  อดีตเจ้าคณะจังหวัดธัญบุรี  วัดเขียนเขต  เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสถานที่ต่างๆ  ตั้งแต่  พ.ศ.  ๒๔๔๐  ถึง  พ.ศ.  ๒๔๔๘  รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น  ๕,๖๔๐  บาท  (ห้าพันหกร้อยสี่สิบบาทถ้วน)  รวมค่าก่อสร้างวัดมูลจินดารามเป็นเงินทั้งสิ้น  ๓๐,๔๘๐  บาท (สามหมื่นสี่ร้อยแปดสิบบาทถ้วน)
            ครั้งต่อมาเมื่อวันที่  ๒  มีนาคม  พ.ศ.  ๒๔๔๕  ร.ศ.  ๑๒๑  ค.ศ.  ๑๙๐๒  จ.ศ.  ๑๒๖๔  พระปฏิบัติราชประสงค์   ได้ทำหนังสือขอถวายเป็นพระอารามหลวง  เมื่อเวลาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า-เจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๕  จะเสด็จพระราชดำเนินเปิดเมืองธัญบุรี พระองค์ทรงมีพระดำรัสรับสั่งว่า“การที่จะถวายและรับเป็นวัดหลวงนั้นเป็นการที่เกี่ยวข้องกับการบำรุง เช่น ให้นิตยภัต และกฐินเป็นต้น  วัดหลวงมีมากแล้ว  รัฐบาลไม่อยากจะให้รับ”
            ครั้งต่อมาเมื่อวันที่  ๑๓  มีนาคม  พ.ศ.  ๒๔๔๕  ร.ศ.  ๑๒๑  ค.ศ.  ๑๙๐๒  จ.ศ.  ๑๒๖๔  ตรงกับวันศุกร์แรม  ๑  ค่ำ  เดือน  ๔  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๕  ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเมืองธัญบุรี  โดยแต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศ  พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฏราชกุมาร  รัชกาลที่  ๖  และพระบรมวงศานุวงศ์  เสด็จโดยรถพระที่นั่งจากพระราชวังสวนดุสิต  ถึงสถานีรถไฟสามเสน  เสด็จประทับรถพระที่นั่งโดยมีรถไฟใช้ฝีจักรจูงรถพระที่นั่งออกจากสถานีรถไฟสามเสนเวลาหนึ่งโมงเช้า  ถึงสถานีรถไฟคลองรังสิต  เวลาสองโมงเช้า  ณ  ที่นั้นมีข้าราชการ  พ่อค้าประชาชน  ทั้งเมืองปทุมธานี  เมืองธัญบุรี  และจังหวัดใกล้เคียง  อาทิเช่น  เมืองนครนายก  เมืองปราจีนบุรี  พระนครศรีอยุธยา  และกรุงเทพ  มารอคอยต้อนรับเสด็จมากมาย
            พันโทพระฤทธิจักรกำจร  ผู้ว่าราชการเมืองธัญบุรี  ได้นำดอกไม้ธูปเทียน  และเครื่องสักการบูชาทูลเกล้าถวาย  อัญเชิญเสด็จเข้าสู่เมืองธัญบุรี  โดยเรือพระที่นั่งชื่อ  “สมจิตหวัง”  โดยมีเรือกลไฟลากจูงถึงเมืองธัญบุรี  เมื่อเวลาสี่โมงเช้า  เมื่อเรือพระที่นั่งเทียบท่าเมืองธัญบุรีแล้วพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่ง  พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับ      ณ  ห้องเจริญพระพุทธมนต์  ทรงจุดธูป  เทียน  บูชาพระรัตนตรัย และทรงศีล  พอได้เวลาห้าโมงเช้าได้   พระฤกษ์แล้ว  ทรงประกอบพิธีทรงชักเชือกเปิดแพรคลุมป้ายชื่อเมืองพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา        ทหารกองเกียรติยศบรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัย  ชักธงประจำเมืองขึ้นสู่ยอดเสา  เสร็จจากพรราชพิธีเปิดเมืองธัญบุรีแล้ว  เวลาบ่ายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับได้มาหยุดเรือพระที่นั่งที่หน้าสะพานฉนวนหน้าวัด  พระปฏิบัติราชประสงค์ได้ลงมารับเสด็จ  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเข้าไปประทับภายในอุโบสถ  พระปฏิบัติราชประสงค์อ่านกราบถวายบังคมทูลที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณได้ทรงพระราชทานวิสุงคามสีมา  พระราชาคณะ  ฐานานุกรม  เปรียญ  เจ้าอธิการ  อันดับ  คณะรามัญ  ได้กระทำสังฆกรรม  ผูกพัทธสีมา  พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศสปิดทองลูกนิมิต  และเป็นองค์ประธานประกอบพิธีตัดลูกนิมิตด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง  ซึ่งในสมัยนั้นพระเจ้าอยู่หัวจะทรงประกอบพิธีเกี่ยวกับเรื่องวัดก็เฉพาะพระอารามหลวงเท่านั้น
            สำหรับนามวัดนั้น  พระปฏิบัติราชประสงค์  ได้กราบทูลขอพระราชทานนามวัดต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระองค์ก็ได้พระราชทานนามวัดว่า  “วัดมูลจินดาราม”  โดยมีพระประสงค์ให้สอดคล้องกับท่านผู้มีจิตศรัทธาสร้างวัด  คือ นายมูลเลอร์ (พระปฏิบัติราชประสงค์) และนางจีน  ตั้งแต่นั้นมา
            อนึ่งก่อนที่พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินกลับ  ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน  ๔๐๐  บาท (สี่ร้อยบาท) เพื่อช่วยในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์วัดอีกด้วย
            ในปี  พ.ศ.  ๒๕๑๙  สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ  สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปรินายก       (วาสน์   วาสนมหาเถระ)  วัดราชบพิธ ฯ  ได้เสด็จเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญหลังใหม่
             ในปี  พ.ศ.  ๒๕๒๒  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปรินายก            วัดบวรนิเวศวิหาร  ในสมัยที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระญาณสังวร  ได้เสด็จเป็นองค์ประธานยกช่อฟ้าศาลาการเปรียญ  และทรงเป็นองค์ประธานเททองหล่อพระประธานประจำศาลาการเปรียญ
            ในปี  พ.ศ.  ๒๕๒๗  พระเจ้าวรวงส์เธอ  พระองค์เจ้าโสมสวลี  พระวรชายา  ในพลโทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  สยามกุฏราชกุมาร  ได้เสด็จเป็นองค์ประธานยกช่อฟ้าศาลาการเปรียญ  และได้มีพระเมตตาปล่อยพันธ์ปลาหน้าวัดมูลจินดารามอีกด้วย
            ในปี  พ.ศ.  ๒๕๓๒  ตรงกับวันที่  ๘  กันยายน  ๒๕๓๒  ม.ล. รสริน  ชยางกูร  พร้อมด้วยพระญาติ  และคณะได้นำพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๕  มามอบถวายไว้ให้กับวัดมูลจินดาราม  ทั้งนี้เพื่อให้พสกนิกรได้สักการะกราบไหว้บูชาระลึกถึงคุณธรรมและความดีที่พระองค์ทรงมีต่อประเทศชาติบ้านเมือง 
  
     
รายนามเจ้าอาวาสตั้งแต่สร้างวัดจนถึงปัจจุบัน                                                               
รูปที่  ๑  พระครูยิ้ม                                                                                                                              
รูปที่  ๒  พระอาจารย์เรียง                                                                                                                    
รูปที่  ๓  พระอาจารย์บม                                                                                                                
รูปที่  ๔  พระครูแข                                                                                                                                 
รูปที่    พระอธิการเลื่อน                                                                                                                     
รูปที่  ๖  พระครูธัญเขตคณารักษ์  (วิเชียร  ธญญทินฺโน)  ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมูลจินดารามตั้งแต่ปี  พ.ศ. ๒๕๐๙  จนถึงปัจจุบัน สมณศักดิ์ที่ พระเทพวุฒาจารย์  และสมัยนั้นยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี อีกด้วย                      
มีรองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาสรวม ๕ รูป                                                                                   
๑.  พระครูโอภาสธัญกิจ           เป็นรองเจ้าอาวาส              
๒.  พระบุญธรรม  ธมฺมปาโล    เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส          
๓. พระสมพงศ์     สุทฺธิวํโส       เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส        
๔. พระสิงห์        กิตฺติวุฑฺโฒ     เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส            
๕. พระมหายุพิน    สุวโจ          เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส       
มีพระภิกษุ-สามเณรจำพรรษา  ในปี พ.ศ. ๒๕๓๒  จำนวน  ๑๐๕  รูป                                       
ปัจจุบันวัดมูลจินดารามมีคณะสงฆ์บริหาร ดังต่อไปนี้                                     
๑. พระครูวิธานวรานุกิจ                       เจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม                                
๒.พระมหาบุญใหล      ญาณวีโร      ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม         
๓.พระครูวินัยธรสุธินันท์   กนฺตวีโร        ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม          
๔.พระมหาประเสริฐ        สีลเสฏฺโฐ       ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม   
มีพระภิกษุ-สามเณรจำพรรษา  ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน  ๒๓  รูป         
ความศรัทธาของวัด                                                                     
พุทธศาสนิกชนมีจิตศรัทธาเลื่อมใสและเคารพนับถืออดีตเจ้าอาวาสพระเทพวุฒาจารย์  มีผู้คนมาร่วมทำบุญที่วัดมูลจินดารามนี้เป็นประจำประมาณ  ๕๐๐ – ๘๐๐  คน   กับทั้งมีกิจกรรมเกี่ยวกับทางพระพุทธศาสนาด้วยดีตลอดมา ฯ                                                             
สุภาษิตประจำวัด                                                                                                   
รักวัดเหมือนบ้าน                                                                                                                                    
รักงานเหมือนชีวิต                                                                                                                                  
รักลูกศิษย์เหมือนลูกหลาน                                                                                                            
รักชาวบ้านเหมือนญาติพี่น้อง                
ปรัชญา                                     
สิ่งที่คิดไว้ ไม่มีไม่เป็น   สิ่งที่มีที่เป็นไม่ได้คิดไว้                            
ปณิธาน                                                                                                                
ของ (พระเทพวุฒาจารย์)   อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และอดีตเจ้อาวาสวัดมูลจินดารามปรารภอยากสร้างสังเวชนียสถาน  ๔  แห่ง จำลองไว้ที่ด้านหลังพระยืน 
      . ลุมพินีวัน : สถานที่ประสูติ 
     . 
พุทธคยา : สถานที่ตรัสรู้ 
      . 
สารนาถ : สถานที่แสดงปฐมเทศนา 
      . 
กุสินารา : สถานที่ปรินิพพาน 
สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้ ท่านว่าเป็นสถานที่ควรไปเคารพสักการะ ควรไปแสวงบุญ เพื่อให้เกิดความสังเวชและเกิดพุทธานุสติ อันจักนำมาซึ่งบุญกุศล และความปลาบปลื้มแช่มชื่นใจ
วิสัยทัศน์                                                                                                      
วัดมูลจินดาราม อยากให้วัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดปทุมธานี เพื่อที่พ่อค้าประชาชนจะได้มีอาชีพเสริมในด้านค้าขายต่อไป                                                                        
พันธกิจ                                                                                     
วัดมูลจินดาราม จัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นประจำทุกปี อาทิ                  
 วันมาฆบูชา   วันวิสาขบูชา   วันอาสาฬหบูชา   วันอัฏฐมีบูชา   และ วันที่ ๕  ธันวาคม วันที่ ๑๒  สิงหาคม ของทุกๆปี จัดบวชชีพราหมณ์ เพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดช  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตลอดมาอีกด้วย  
การจัดองค์การบริหาร                                                                                      
วัดมูลจินดาราม  พระครูวิธานวรานุกิจ  เจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม เป็นผู้บริหารคณะสงฆ์ 
พระมหาประเสริฐ  สีลเสฏฺโฐ     ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม   ฝ่ายบัญชีการเงิน    
คุณทรงวุฒิ   บุญเสริม    ไวยาวัจกรวัด    ฝ่ายการเงินเบิก – จ่าย       
สภาพปัจจุบันของวัดมูลจินดาราม
-          ฐานวัดมูลจินดาราม เป็นวัดราษฎร์
-          บริเวณวัดมูลจินดาราม มีเนื้อที่   ๗๕  ไร่  ๒  งาน
-          ที่ธรณีสงฆ์มีประชาชนพักอาศัยอยู่ประมาณ ๕๐ ครัวเรือน                                                                      เสนาสนะ
      ๑. อุโบสถ  ๑  หลัง


อุโบสถหลังนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา   เมื่อวันที่   ๑๐  กรกฎาคม  พ..  ๒๔๔๒   เขตวิสุงคามสีมา กว้าง  ๑๔  เมตร  ยาว ๒๒  เมตร   ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.. ๒๕๓๑ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ  จ... ประดิษฐานบนหน้าบันอุโบสถ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ ๕  พระองค์เสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลปิดทองลูกนิมิต กับทั้งเป็นประธานตัดลูกนิมิตด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ซึ่งในสมัยนั้นพระเจ้าอยู่หัวจะไปทรงจัดทำเกี่ยวกับวัดก็เฉพาะอารามหลวงเท่านั้น พ.. ๒๕๓๑ ได้พระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช รัชกาลปัจจุบัน พระพุทธรูปพระประทานประจำอุโบสถว่า พระพุทธวิโสธนมงคลศาสดา มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าศาสดามงคลผู้ทำให้บริสุทธิ์ ฝาผนังในพระอุโบสถมีเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติสมควรแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
๒. ศาลาเอนกประสงค์พระเทพวุฒาจารย์    
                                  
๓.  หลังศาลาการเปรียญ 
          
๔.กุฏิสงฆ์จำนวน  ๙  หลัง                                  
                                  
๕.หอเจริญพระพุทธมนต์  ๑  หลัง 
           
๖.พระพุทธจักษุมงคลศาสดา ( พระยืน ) 
พระพุทธจักษุมงคล สร้างเมื่อ พ.. ๒๕๔๑ ความกว้างของวิหาร ๖ เมตร ยาว ๑๗ เมตรองค์พระสูง ๑๖ เมตร ๑ ศอก ๑ คืบ ๙ นิ้ว สิ้นค่าการก่อสร้าง ๒,๔๕๐,๐๐๐ ( สองล้านสี่แสนห้าหมื่นบาทถ้วน )
๗.ฌาปนสถาน  (เมรุ)  ๑  หลัง 
                                                
๘.ศาลาบำเพ็ญกุศล  ๒  หลัง    
                                             
๙.แพปลา วังมัจฉาเมืองธัญบุรีจำนวน  ๓  หลัง

ปี พ.. ๒๕๒๗ พระบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมวลี พระวรชายา ได้เสด็จเป็นองค์ประธานยกช่อฟ้าศาลาการเปรียญ และได้เมตตาปล่อยพันธุ์ปลาสวายหน้าวัดมูลจินดาราม จากวันนั้นถึงวันนี้คนก็มาให้อาหารปลามากขึ้นเป็นลำดับ และตรงนี้ก็ได้ชื่อว่า วังมัจฉา เมืองธัญบุรี อีกด้วย     
๑๐. หอกอง – หอระฆัง 
  
๑๑. ศาลาปริยัติธรรม (สนามสอบบาลี จังหวัดปทุมธานี)
  
๑๒.พระพุทธโสธรจำลอง  
         
๑๓. พระบรมรูปรัชกาลที่ ๕
.. ๒๕๔๓ ได้สร้างที่ประดิษฐานพระบรมรูปยืนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เพื่อเป็นที่เคารพสักการบูชาของพสกนิกรโดยทั่วไป เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระองค์เสร็จบำเพ็ญพระราชกุศลปิดทองลูกนิมิต กับทั้งเป็นองค์ประธานตัดลูกนิมิตด้วยมีพระหัตถ์ของพระองค์เอง เมื่อ ๑๐๐ กว่าปีมาแล้ว
-     สิ่งก่อสร้าง                                                                                                                                            วัดมูลจินดาราที่กำลังดำเนินการก่อสร้างคือ   ปฏิสังขรณ์ศาลาพระปริยัติธรรม ๓  ชั้น อดีตเป็นสถานที่สอบบาลีประจำจังหวัดปทุมธานี,  ปรับปรุงพื้นที่รอบๆองค์พระยืน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท,  ปรับพื้นที่คอนกรีต – ถนน ๔๕๐,๐๐๐ บาท  
-   โบราณวัตถุ                                                                                                                                         วัดมูลจินดารามนี้มีปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ   พระพุทธประธานภายในอุโบสถ ,        หลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง,  ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป
-     บุคลากร                                                                                                                                                   - บัญชีรายชื่อพระภิกษุ-สามเณร   ผู้อยู่จำพรรษาในวัดมูลจินดาราม ๓ ปี  ย้อนหลัง
พระราชปริยัตยาภรณ์   รก. เจ้าอาวาส  วันที่  ๒๗  กรกฎาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๓
มีพระภิกษุ-สามเณร   ผู้อยู่จำพรรษาในวัดมูลจินดาราม ๓๒ รูป                                                               - พระเทพรัตนสุธี   รก. เจ้าอาวาส  วันที่  ๑๖  กรกฎาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๔                                
มีพระภิกษุ-สามเณร   ผู้อยู่จำพรรษาในวัดมูลจินดาราม ๓๒ รูป                                                  
- พระครูวิธานวรานุกิจ  เจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม  วันที่  ๓  สิงหาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๕                           
มีพระภิกษุ-สามเณร   ผู้อยู่จำพรรษาในวัดมูลจินดาราม ๒๓ รูป
-   โฉนดที่ดิน
ที่ดินที่ตั้งวัดมูลจินดารามมีเนื้อที่ ๗๙ ไร่ ๖๕ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๒๒๖
-   การจัดผังวัด
ด้านทิศเหนือยาว ๔๐๐ เมตร ติดต่อกับคลองรังสิตประยูรศักดิ์
ด้านทิศใต้ยาว ๖๐๐ เมตร ติดต่อกับที่ดินเอกชน

ด้านทิศตะวันออกยาว ๖๔๐ เมตร ติดกับคลองซอยที่ ๕
ด้านทิศตะวันตกยาว ๖๔๐ เมตร ติดกับโรงเรียนวัดมูลจินดาราม
-   จุดแข็ง(Strengths)
ของวัดมูลจินดาราม คือเป็นสถานที่ทางการคณะสงฆ์ใช้เป็นสถานที่ประชุมอบนมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส,  ระดับเจ้าคณะตำบล,  อบรมครูสอนพระปริยัติธรรม,  เป็นสถานที่สอบธรรมสนามหลวงประจำปี,     เป็นสถานที่สอบธรรมชั้นนวกภูมิ,  เป็นสถานที่อบรมพระภิกษุ-สามเณร นวกประจำปี,
วัดมูลจินดาราม ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของทางราชการ  คือเป็นสถานที่ให้นักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ  แสดงตนเป็นพุทธมามกะประจำปีเป็นสถานที่ประกอบพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของนักเรียน  และบรรดาข้าราชการตามหน่วยงานต่างๆเป็นสถานที่ประกอบพิธีไหว้ครูของนักเรียนโรงเรียนวัดมูลจินดารามเป็นสถานที่ทางราชการใช้เป็นสถานที่อบรมลูกเสือชาวบ้าน
เป็นสถานที่อบรมฝึกวิชาชีพ,  ประชุมกลุ่มเกษตรกร, 
วัดมูลจินดารามยังเป็นวังมัจฉามีปลาสวายอยู่ที่คลองหน้าวัดเป็นจำนวนมาก             
-  จุดอ่อน(Weaknesses)
ของวัดมูลจินดาราม คือ    หากเดินทางมาโดยรถยนต์ รถค่อนข้างติด วัดไม่มีรั้ว คนชอบมาตกปลา ยากแก่การป้องกันผู้ที่มาขโมยปลา และข้าวของในวัด                                                                                     โอกาส(Opportunities) ของวัดมูลจินดาราม คือ เป็นศูนย์กลางของประชาชนในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง และเป็นสถานที่ที่หน่วยงานราชการมาจัดงานเกี่ยวกับทางราชการอีกมากมาย เช่น งานฉลอง ๑๐๕ ปี อำเภอธัญบุรี   งานโครงการ “ทำดีเพื่อพ่อ”           และงานประเพณีจุดลูกหนู เป็นต้น
-   อุปสรรค(Threats)
ของวัดมูลจินดาราม คือ วัดมูลจินดารามผึ่งมีการเปลี่ยนเจ้าอาวาสองค์ใหม่ พระภิกษุสงฆ์ยังเป็นกลุ่มๆ ยังไม่เป็นเอกภาพ ยากต่อการพัฒนาวัดให้เดินไปข้างหน้าได้
- แผนพัฒนาวัด
-          วัดมูลจินดาราม ส่งพระครูสอนศีลธรรมประจำโรงเรียนเข้าไปสอนในโรงเรียนวัดมูลจินดาราม จำนวน  ๔  รูป
-          วัดมูลจินดาราม มีแผนพัฒนาวัดในอนาคตไว้แล้ว ๔ โครงการด้วยกัน คือ    
๑.  สร้างกุฏิพักสงฆ์  ๓  ชั้น  ๘๐ ห้อง ใช้งบประมาณ  ๓๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท     
๒. สร้างเมรุขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนเมรุเก่าเพื่อปรับทัศนียภาพหน้าวัดใช้งบประมาณ       ประมาณ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐  บาท           
๓. สร้างอุโบสถ  ๒  ชั้นขึ้นมาใหม่ทดแทนอุโบสถหลังเก่าเพราะหลังเก่าชำรุดซุดโทรมมากเพราะเป็นอุโบสถยุคสมัย  ร.๕  ใช้งบประมาณ  ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท                                               
๔.  สร้างวิหารครอบพระยืนปางถวายเนตร ใช้งบประมาณ  ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท  ในอนาคตข้างหน้าอันไม่นานนี้วัดมูลจินดารามมีแผนพัฒนาวัดไว้  ๔ โ ครงการใหญ่ๆ ซึ่งจะต้องใช้ งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๒๔๐,๐๐๐,๐๐๐   บาท  (สองร้อยสี่สิบล้านบาทถ้วน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น